ตามจับ “Naked short selling” ตัวป่วนตลาดหุ้น ตลท.ยันไม่รอดสายตา
ราคาทองคำวันนี้ เปิดลง 50 บาท แม้เงินบาทแข็งขึ้นเล็กน้อย ทองตปท.ไม่ขยับ
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตร หรือ บอนด์ยีลด์ (Bond Yield) เดือน พ.ย.66 ทั้งของสหรัฐอเมริกา และไทย ปรับตัวลดลงแรง เฉพาะอย่างยิ่งอัตราผลตอบแทนพันฐบัตร ไทย อายุ 10 ปี ลดลง 0.25% และของสหรัฐฯ ลดลง 0.48% ภาวะดังกล่าวสะท้อนภาพของทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่จบวัฎจักรขาขึ้น และกำลังรอเวลาปรับลดลง พัฒนาการต่อไปเชื่อว่าจะเห็นการไหลของเม็ดเงินลงทุน เข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดหุ้นที่ VALUATION ต่ำอย่างบ้านเรา
โดยนอกจากจะมีความถูกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยังมีสถานะการถือครองของต่างชาติที่ต่ำผิดปกติ และมีแรงหนุนจากเม็ดเงินลงทุนสถาบันในประเทศ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการจัดเตรียมออก THAILAND ESG FUND ซึ่งเป็นกองทุนที่
ขณะที่เม็ดเงินต่างชาติ (FUND FLOW) ค่อย ๆ ไหลกลับมาในตลาดการเงินไทยในช่วงที่ผ่านมา โดยต่างชาติหลังจากที่ขายสุทธิมานาน 2 เดือน รวม 8.8 หมื่นล้านบาท ได้กลับมาซื้อสุทธิตราสารหนี้ไทยในเดือน ต.ค. 1.25 หมื่นล้านบาท และซื้อต่อเนื่องในเดือน พ.ย. อีก 7.0 พันล้านบาท (MTD) กดดันให้อัตราผลตอบแทนพันฐบัตรไทยอายุ 10 ปี ปรับตัวลงแรง -25 BPS. (MTD) หรือราคาตราสารหนี้ไทยระยะยาวเพิ่มได้เร็วและแรงในช่วงสั้น
สำหรับในระยะถัดไปคาดว่าจะมีเม็ดเงินบางส่วนไหลเข้ามาที่ตลาดหุ้นเช่นกัน สังเกตได้จากในช่วงนี้ เริ่มเห็นต่างชาติสลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทย 3 ใน 4 วันทำการ ด้วยมูลค่ารวม 2.04 พันล้านบาท
นอกจากนี้ยังเห็นมูลค่า Short Sell ค่อย ๆ ลดลง โดยในสัปดาห์ที่แล้ว เหลือ สัดส่วน SHORT SELL 9.3%, และเดือนนี้ MTD 9.9% ลดลงจากเดือน ต.ค. และ ก.ย. ที่ 11.3% และ 11.2% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET INDEX) ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปได้ต่อ โดยประเมินจากปัจจัย แวดล้อมทางพื้นฐานที่ยังสนับสนุนอยู่ อย่างไรก็ตามยังมีด่านที่ 1,420 จุด เป็นสำคัญ วันนี้ประเมินกรอบ 1,405-1,425 จุด
ด่วนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง! 4 คนร้ายบุกยิงนักเรียนช่างภายในซ.ระนอง 2 เสียชีวิต 1 ราย
โดดเด่นบนเวที Miss Universe! “ชุดเทพธิดาอาณาจักรอยุธยา“ ถูกเลือกลงหนังสือพิมพ์ ”เอลซัลวาดอร์“
มอเตอร์เวย์ M81 “บางใหญ่ – กาญจนบุรี” เตรียมเปิดทดลองใช้ฟรีปลายปี