หลังจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.66 ที่ผ่านมามีมติเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 (EV3.5) ในช่วง 4 ปี (2567-2570) ผลักดันไทยเป็นฮับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค
ล่าสุดกระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิตเตรียมขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค ตามนโยบาย 30@30 ที่ตั้งเป้าการผลิตยานยนต์ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (Zero Emission Vehicle: ZEV) ให้ได้อย่างน้อย 30% ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดภายในปี 2573 คิดเป็นกำลังการผลิตรถยนต์ประมาณ 725,000 คัน และรถจักรยานยนต์ประมาณ 675,000 คันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
สำหรับรายละเอียดมาตรการ EV 3.5 รวม 4 ประเภท ดังนี้
1.รถยนต์นั่ง (ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท)
1.1 สิทธิเงินอุดหนุน
-ขนาดแบตเตอรี่ ตั้งแต่ 10 kWh แต่น้อยกว่า 50 kWh
- ปี 2567 จะได้รับเงินอุดหนุน 50,000 บาท/คัน
- ปี 2568 จะได้รับเงินอุดหนุน 35,000 บาท/คัน
- ปี 2569 – 2570 จะได้รับเงินอุดหนุน 25,000 บาท/คัน (เฉพาะที่ผลิตในประเทศเท่านั้น)
-ขนาดแบตเตอรี่ ตั้งแต่ 50 kWh ขึ้นไป
- ปี 2567 จะได้รับเงินอุดหนุน 100,000 บาท/คัน
- ปี 2568 จะได้รับเงินอุดหนุน 75,000 บาท/คัน
- ปี 2569 – 2570 จะได้รับเงินอุดหนุน 50,000 บาท/คัน (เฉพาะที่ผลิตในประเทศเท่านั้น)
1.2 สิทธิลดอัตราอากรขาเข้าไม่เกิน 40% (สำหรับรถที่มีการนำเข้าในช่วงปี 2567 – 2568)
1.3 สิทธิลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2% ในปี 2567 – 2570
2.รถยนต์นั่ง (ราคาตั้งแต่ 2 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 7 ล้านบาท)
-ขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 50 kWh ขึ้นไป
- ได้รับสิทธิลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2%
3.รถกระบะ (เฉพาะที่ผลิตภายในประเทศ และราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท)
-ขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 50 kWh ขึ้นไป
- ได้รับเงินอุดหนุน 100,000 บาท/คัน
- ได้รับสิทธิอัตราภาษีสรรพสามิต 0% ในปี 2567 – 2568 และอัตราภาษี 2% ในปี 2569 – 2570
4.รถจักรยานยนต์ (เฉพาะที่ผลิตภายในประเทศ และราคาไม่เกิน 150,000 บาท)
-ขนาดแบตเตอรี่ตั้งแต่ 3 kWh ขึ้นไป
- ได้รับเงินอุดหนุน 10,000 บาท/คัน
- ได้รับสิทธิอัตราภาษีสรรพสามิต 1% ในปี 2567 – 2570
เงื่อนไขมาตรการ EV 3.5 คือ ผู้รับการสนับสนุนจากโครงการนี้ ต้องผลิตรถยนต์ เพื่อชดเชยการนำเข้าภายในปี 2569 ในอัตราส่วน 1 : 2 ของจำนวนนำเข้าในช่วงปี 2567 – 2568 (นำเข้า 1 คัน ผลิตชดเชย 2 คัน) หรือผลิตชดเชยการนำเข้าภายในปี 2570 ในอัตราส่วน 1 : 3 (นำเข้า 1 คัน ผลิตชดเชย 3 คัน)
สำหรับแนวทางปฏิบัติผู้นำเข้าหรือผู้ประกอบการเข้าร่วมมาตรการ EV3.5 มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
1) ต้องยื่นหนังสือแจ้งความประสงค์ขอรับสิทธิฯ และมีการทำข้อตกลง (MOU) ให้เป็นผู้ที่ได้รับสิทธิตามมาตรการ EV3.5 ร่วมกับกรมสรรพสามิต
2) เมื่อได้รับการอนุมัติสิทธิแล้ว ผู้ขอใช้สิทธิจะต้องได้รับอนุมัติราคาขายปลีกแนะนำและผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติยานยนต์ไฟฟ้าก่อนเริ่มขายรถรุ่นนั้น ๆ
3) กรณีนำเข้า ผู้นำเข้าต้องปฏิบัติตามข้อ 1 และ 2 ให้แล้วเสร็จก่อนการนำเข้า จึงจะสามารถนำยานยนต์ไฟฟ้ามาขอรับสิทธิทางภาษีได้
4) การขอรับเงินอุดหนุนหลังจากการจำหน่ายและจดทะเบียนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กรมสรรพสามิตกำหนด
5) สิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมถึงเงื่อนไขการผลิตชดเชย บทลงโทษ ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขอื่น ๆ ตามมาตรการ EV3.5 ให้เป็นไปตามที่กรมสรรพสามิตกำหนด
“ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาตรการ EV3.0 สามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการใหม่นี้เพิ่มเติมได้ และผู้ประกอบการที่ยังไม่เคยเข้าร่วมโครงการสามารถเข้าร่วมมาตรการ EV3.5 ได้ โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมสรรพสามิต”
(ที่มา : กระทรวงการคลัง , กรมสรรพสามิต)คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง